เลือกหัวข้อที่สนใจ

เช็ก! เปิดร้านอาหารต้องใช้ใบอนุญาตอะไรบ้างให้ถูกต้องตามกฎหมาย 

แชร์โพสต์นี้
เลือกหัวข้อที่สนใจ
ใบอนุญาต

การเริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่ได้มีเพียงแค่รสชาติอาหารที่อร่อยและทำเลที่ดีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการดำเนินการทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของธุรกิจการขอใบอนุญาตต่าง ๆ ให้ครบถ้วนจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม บทความนี้ จะพาไปสำรวจว่าใบอนุญาตประกอบกิจการร้านอาหารและเอกสารสำคัญอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องมีนั้นมีอะไรบ้าง 

ใบอนุญาตประกอบกิจการร้านอาหาร

ใบอนุญาตประกอบกิจการร้านอาหารถือเป็นเอกสารสำคัญที่สุดและเป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจร้านอาหารอย่างถูกกฎหมาย การได้รับใบอนุญาตนี้เป็นการยืนยันว่าสถานประกอบการของเราได้มาตรฐานตามที่หน่วยงานราชการกำหนด ทั้งในด้านสุขอนามัย ความปลอดภัย และความเหมาะสมของสถานที่ ซึ่งรายละเอียดและขั้นตอนการขอจะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรูปแบบการจดทะเบียนธุรกิจ 

การจดทะเบียนบุคคลธรรมดา กับ นิติบุคคล 

สำหรับรูปแบบบุคคลธรรมดาการดำเนินการจะเริ่มต้นด้วยการจดทะเบียนพาณิชย์ โดยต้องระบุวัตถุประสงค์ว่าเป็นการประกอบกิจการร้านอาหาร ซึ่งเอกสารนี้เป็นหลักฐานสำคัญสำหรับยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการร้านอาหารต่อไป ส่วนในรูปแบบนิติบุคคลจะต้องกำหนดวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจร้านอาหารหรือการจำหน่ายอาหารไว้ในหนังสือรับรองบริษัทให้ชัดเจน เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการยื่นคำขออนุญาตเช่นเดียวกัน

เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียน 

การเตรียมเอกสารให้พร้อมและครบถ้วนจะช่วยให้ขั้นตอนการยื่นขอใบอนุญาตเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว โดยเอกสารหลักที่ต้องใช้จะแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ดังนี้

  • สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้ประกอบการหรือผู้มีอำนาจลงนาม
  • สำเนาทะเบียนบ้าน ฉบับที่ใช้เป็นที่ตั้งของสถานประกอบการ
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล กรณีจดทะเบียนในรูปแบบบริษัท (ต้องมีอายุไม่เกิน 6 เดือน)
  • สำเนาบัตรประชาชนของผู้แทนนิติบุคคล สำหรับผู้ยื่นเรื่องที่เป็นนิติบุคคล
  • หนังสือมอบอำนาจ กรณีที่เจ้าของกิจการไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
  • ใบรับรองแพทย์ ของพนักงานทุกคนที่ต้องสัมผัสอาหารโดยตรง เพื่อยืนยันว่าปลอดจากโรคติดต่อ
  • แผนที่โดยสังเขป แสดงที่ตั้งของร้านอาหาร เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้
  • เอกสารเพิ่มเติม ใบวุฒิบัตรผ่านการอบรมหลักสูตรสุขาภิบาลอาหาร 

สถานที่สำหรับยื่นจดทะเบียนธุรกิจ 

การยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการร้านอาหารจะต้องดำเนินการ ณ หน่วยงานราชการที่กำกับดูแลพื้นที่ที่ร้านอาหารของเราตั้งอยู่ ซึ่งสามารถตรวจสอบและติดต่อได้ตามสถานที่ดังต่อไปนี้

  • สำนักงานเขต สำหรับร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
  • องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กรณีร้านตั้งอยู่นอกเขตเทศบาลหรือเขตปกครองพิเศษ
  • สำนักงานเทศบาล หากร้านอาหารอยู่ในเขตพื้นที่ของเทศบาลนั้น ๆ
  • ศาลาว่าการเมืองพัทยา สำหรับสถานประกอบการที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองพัทยา 

บทลงโทษเมื่อไม่ได้ขอใบอนุญาต 

การละเลยการขอใบอนุญาตให้ถูกต้องเป็นความเสี่ยงที่ไม่คุ้มค่า เพราะมีบทลงโทษตามกฎหมายที่ชัดเจน การดำเนินกิจการโดยไม่มีเอกสารรับรองที่จำเป็น อาจนำไปสู่ผลกระทบต่อธุรกิจได้

  • กรณีประกอบกิจการโดยไม่มีใบอนุญาต มีโทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน และปรับไม่เกิน 50,000 บาท
  • กรณีประกอบกิจการโดยไม่มีหนังสือรับรองการแจ้ง กำหนดโทษจำคุกสูงสุด 3 เดือน และปรับไม่เกิน 25,000 บาท
  • การฝ่าฝืนข้อบัญญัติท้องถิ่นหรือกฎกระทรวง อาจมีบทลงโทษเพิ่มเติมตามที่กฎหมายกำหนด 

การต่ออายุใบอนุญาต และกรณีสูญหาย/ชำรุด 

ใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารจะมีอายุการใช้งาน 1 ปี ผู้ประกอบการต้องยื่นคำขอต่ออายุ (แบบ สอ.5) ก่อนใบอนุญาตจะหมดอายุ และเมื่อชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถดำเนินกิจการต่อได้ สำหรับหนังสือรับรองการแจ้ง แม้จะไม่ต้องต่ออายุรายปี แต่ยังคงต้องชำระค่าธรรมเนียมเป็นประจำทุกปีเพื่อรักษาสถานะของใบอนุญาต หากใบอนุญาตสูญหายหรือชำรุดต้องยื่นเรื่องขอใบแทนทันที 

สิ่งที่ต้องขออนุญาตอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจร้านอาหาร 

สิ่งที่ต้องขออนุญาต

นอกเหนือจากใบอนุญาตประกอบกิจการร้านอาหารซึ่งเป็นเอกสารหลักแล้ว ยังมีใบอนุญาตอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีความจำเป็นแตกต่างกันไปตามลักษณะการให้บริการของแต่ละร้าน การตรวจสอบและขออนุญาตเพิ่มเติมให้ครบถ้วนจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ 

ใบอนุญาตจำหน่ายอาหาร 

ใบอนุญาตนี้จำเป็นต้องขอจากหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อรับรองว่าร้านมีมาตรฐานด้านความสะอาดและความปลอดภัย โดยจะแบ่งเป็น 2 ประเภทตามขนาดพื้นที่ คือ ใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหาร สำหรับพื้นที่เกิน 200 ตารางเมตร และหนังสือรับรองการแจ้งจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหาร สำหรับพื้นที่ไม่เกิน 200 ตารางเมตร ซึ่งต้องดำเนินการก่อนเริ่มจำหน่ายอาหารอย่างเป็นทางการ 

ใบอนุญาตครอบครองวัตถุอันตราย 

หากร้านอาหารมีการใช้ก๊าซหุงต้มในปริมาณมาก จะต้องดำเนินการขอใบอนุญาตตามกฎหมาย โดยหากมีปริมาณก๊าซหุงต้มสะสมเกิน 250 กิโลกรัมแต่ไม่ถึง 1,000 กิโลกรัม จะต้องแจ้งการครอบครอง แต่หากมีปริมาณเกิน 1,000 กิโลกรัมขึ้นไป จะต้องขออนุญาตครอบครองวัตถุอันตราย ซึ่งในกรุงเทพฯ สามารถติดต่อศูนย์บริการธุรกิจพลังงาน และต่างจังหวัดติดต่อสำนักงานพลังงานจังหวัด 

ใบอนุญาตจำหน่ายสุรา 

สำหรับร้านที่ต้องการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะต้องยื่นคำขอใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ณ กรมสรรพสามิตในพื้นที่ที่ร้านตั้งอยู่ โดยใบอนุญาตนี้มีอายุ 1 ปี และมีค่าธรรมเนียมแตกต่างกันไปตามประเภทและปริมาณการจำหน่าย การจำหน่ายสุราโดยไม่มีใบอนุญาตถือว่าผิดกฎหมายและมีโทษปรับตามที่กำหนดไว้ 

ใบอนุญาตตั้งสถานบริการ 

กรณีที่ร้านอาหารมีการแสดงดนตรีสด หรือมีการแสดงอื่น ๆ ที่เข้าข่ายสถานบริการ จะต้องขอใบอนุญาตเพิ่มเติม 2 ส่วน คือใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ซึ่งสถานที่ยื่นขอจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ตั้งของร้าน โดยในกรุงเทพฯ จะต้องติดต่อสำนักงานเขตและกองบัญชาการตำรวจนครบาล ส่วนต่างจังหวัดให้ติดต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและที่ทำการปกครองจังหวัด 

ภาษีป้าย 

ภาษีป้ายคือภาษีที่จัดเก็บจากป้ายที่ใช้แสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายการค้าเพื่อวัตถุประสงค์ในการหารายได้หรือการโฆษณา ผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีการติดตั้งป้ายที่หน้าร้านหรือบริเวณอื่น ๆ จะต้องยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีป้าย (ภ.ป.1) ณ สำนักงานเขตหรือหน่วยงานท้องถิ่นที่ร้านตั้งอยู่ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี อัตราภาษีจะคำนวณจากขนาดและประเภทของป้าย 

เปิดร้านอาหารเตรียมการจัดการการขายหลายช่องทางให้พร้อม 

เมื่อดำเนินการด้านเอกสารและใบอนุญาตต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว สิ่งสำคัญลำดับถัดมาคือการวางแผนบริหารจัดการร้านให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ในยุคที่ลูกค้ามีช่องทางการสั่งซื้อที่หลากหลาย ทั้งการนั่งรับประทานที่ร้าน การสั่งกลับบ้าน และบริการเดลิเวอรี่ การระบบร้านอาหารที่ดีจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับการขายทุกรูปแบบ ช่วยให้การจัดการออเดอร์เป็นไปอย่างราบรื่นและแม่นยำ

เปิดร้านอาหารถูกต้องตามกฎหมาย

การเปิดร้านอาหารให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้นจำเป็นต้องดำเนินการขอใบอนุญาตหลายส่วน โดยมีใบอนุญาตประกอบกิจการร้านอาหารเป็นเอกสารหลัก และยังมีใบอนุญาตอื่น ๆ ตามลักษณะการให้บริการ เช่น ใบอนุญาตจำหน่ายสุรา หรือภาษีป้าย การเตรียมการและยื่นเอกสารให้ครบถ้วนตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้ธุรกิจเริ่มต้นได้อย่างราบรื่น และเมื่อรากฐานด้านกฎหมายมั่นคงแล้ว การนำเทคโนโลยีอย่างของโปรแกรม POS จาก Super POS เข้ามาช่วยบริหารจัดการร้าน ก็จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาว 

แชร์โพสต์นี้

recommend blog

บทความแนะนำ

สอบถามรายละเอียด
หรือติดต่อพนักงานขาย Super POS

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดระบบ Super POS โดยกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่เลย