เลือกหัวข้อที่สนใจ

BCG Matrix คืออะไร? หลักวิเคราะห์เมนูเพื่อบริหารร้านอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ

แชร์โพสต์นี้
เลือกหัวข้อที่สนใจ
หลักวิเคราะห์เมนู

ในยุคที่การแข่งขันร้านอาหารรุนแรง “เมนูไหนขายดี” หรือ “เมนูไหนขาดทุน” อาจเป็นตัวชี้วัดชะตาธุรกิจได้เลย
หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้เจ้าของร้านวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างเป็นระบบคือ BCG Matrix แนวคิดนี้ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด เพราะ BCG Matrix คือ โมเดลที่ช่วยให้รู้ว่าเราควรลงทุนเพิ่ม คงไว้ หรือ “ตัดทิ้ง” เมนูใด เพื่อให้ร้านเติบโตอย่างมีกลยุทธ์และไม่เสียทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์

BCG Matrix คืออะไร และทำไมถึงสำคัญกับการบริหารร้านอาหาร

BCG Matrix คือ เครื่องมือวิเคราะห์ที่ถูกพัฒนาโดย Boston Consulting Group
ใช้ในการจำแนกผลิตภัณฑ์ (หรือในที่นี้คือ “เมนูอาหาร”) ตามสองปัจจัยหลัก ได้แก่

  1. ยอดขาย
  2. กำไรต่อเมนู

โมเดลนี้ช่วยให้เจ้าของร้านเห็นภาพว่า เมนูใดคือสินค้าที่ควรลงทุนเพิ่ม และเมนูใดกำลังเป็นภาระ

องค์ประกอบของ BCG Matrix และ 4 กลุ่มหลักที่ควรรู้

BCG Matrix

BCG Matrix แบ่งเมนูออกเป็น 4 กลุ่มสำคัญ ได้แก่

  1. Star (ดาวเด่น):  เมนูที่มีกำไรสูงและยอดขายสูง เป็นเมนูเด่นของร้าน
  2. Horse (ม้า): เมนูที่มีกำไรน้อยและยอดขายสูง เมนูขายดีที่ยังทำกำไรไม่ได้มาก
  3. Jigsaw (จิกซอร์): เมนูที่มีกำไรสูงและยอดขายน้อย เมนูใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน
  4. Dog (สุนัข): เมนูที่มีกำไรน้อยและยอดขายน้อย เมนูที่ยอดขายต่ำและเติบโตช้า

วิธีจัดการแต่ละกลุ่มใน BCG Matrix ให้ร้านอาหารทำงานอย่างมีกลยุทธ์

1. กลุ่ม Star (ดาวเด่น) – เมนูทำเงินที่ต้องรักษาไว้

เป็นเมนูที่ขายดีและได้รับความนิยมสูง เมนู “Star” คือหัวใจของร้านที่ต้องดูแลให้ดี เพราะเป็นทั้งรายได้หลักและภาพลักษณ์ของแบรนด์ เช่น เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน

กลยุทธ์ที่ควรทำ:

  • รักษาคุณภาพรสชาติและความสม่ำเสมอ
  • ขยายช่องทางขาย เช่น เดลิเวอรี่ หรือเพิ่มโปรโมชั่น
    ลงทุนพัฒนาเพิ่มเติม เช่น เมนูย่อย หรือเมนูพิเศษประจำฤดูกาล

2. กลุ่ม Horse (ม้า) – เมนูสร้างยอดขาย ควรรักษาคุณภาพ

เป็นเมนูที่กำไรอาจไม่สูงมากแต่ยอดขายสูง เมนู “Horse” คือฐานรายได้ของร้าน ถ้าดูแลดี จะเป็นแหล่งทุนหมุนสำหรับการพัฒนาเมนูใหม่ ๆ

กลยุทธ์ที่ควรทำ:

  • ควบคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม อาจลดต้นทุนวัตถุดิบลง
  • อาจเพิ่มราคาตามความเหมาะสม
  • ไม่จำเป็นต้องโปรโมทมาก แต่ต้องรักษาลูกค้าประจำ

3. กลุ่ม Jigsaw (จิกซอร์) – เมนูน่าลองพัฒนา

เป็นเมนูที่ยังไม่ชัดเจนว่าขายดีหรือไม่  หากเมนูในกลุ่มนี้เริ่มมียอดขายเติบโต สามารถผลักดันให้กลายเป็น “Star” ได้ในอนาคต

กลยุทธ์ที่ควรทำ:

  • ทดลองโปรโมชัน เช่น ซื้อ 1 แถม 1
  • เก็บฟีดแบกลูกค้าอย่างใกล้ชิด
  • ปรับสูตรหรือวิธีนำเสนอให้โดดเด่นขึ้น

4. กลุ่ม Dog (สุนัข) – เมนูที่ควรพิจารณาตัดออก

เป็นเมนูที่ขายไม่ดีและใช้วัตถุดิบมาก การกล้าตัดเมนูที่ไม่ทำกำไร คือจุดเริ่มต้นของการบริหารร้านอย่างมีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์ที่ควรทำ:

  • ประเมินว่ามีเหตุผลพิเศษให้คงไว้หรือไม่ เช่น เป็นเมนูเฉพาะกลุ่ม
  • ถ้าไม่ใช่ ให้ลดจำนวนวัตถุดิบหรือเลิกขายเพื่อลดภาระ
เครื่องมือวางกลยุทธ์สำหรับบริหารร้านอาหาร

การเข้าใจว่า “BCG Matrix คือ” ไม่ใช่แค่โมเดลวิเคราะห์ธุรกิจ แต่คือเครื่องมือวางกลยุทธ์สำหรับ บริหาร ร้านอาหาร อย่างมืออาชีพ เพียงเก็บข้อมูลยอดขายอย่างต่อเนื่อง และปรับกลยุทธ์ตามผลลัพธ์  ร้านของคุณก็จะสามารถเพิ่มกำไรได้อย่างมั่นคง เราสามารถเริ่มปรับตัวตั้งแต่วันนี้ได้ด้วยระบบ POS จาก Super POS ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการร้านอาหารแบบครบวงจร มีเครื่องมือวิเคราะห์สินค้าและเมนู ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเชิงข้อมูลอย่างถูกต้องและแม่นยำ

แชร์โพสต์นี้

recommend blog

บทความแนะนำ

สอบถามรายละเอียด
หรือติดต่อพนักงานขาย Super POS

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดระบบ Super POS โดยกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่เลย