ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว Cashless Society กำลังกลายเป็นเทรนด์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะในแวดวงธุรกิจร้านอาหาร เราจะมาเจาะลึกว่าสังคมไร้เงินสดกำลังส่งผลกระทบต่อร้านอาหารอย่างไร และเจ้าของร้านควรปรับตัวอย่างไรเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้
Cashless Society คืออะไร
Cashless Society หรือ สังคมไร้เงินสด คือ รูปแบบสังคมที่การทำธุรกรรมทางการเงินส่วนใหญ่ดำเนินการผ่านช่องทางดิจิทัลแทนการใช้เงินสดกระดาษหรือเหรียญ ปัจจุบันเราเห็นการเติบโตของ Cashless Society อย่างก้าวกระโดดในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ซึ่งเร่งให้ผู้คนหันมาใช้การชำระเงินแบบไร้สัมผัสมากขึ้น
Cashless Society มีอะไรบ้าง
ในยุค Cashless Society มีช่องทางการชำระเงินหลากหลายรูปแบบที่เข้ามาทดแทนเงินสด แต่ละรูปแบบมีความสะดวกและข้อดีแตกต่างกันไป เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจเพื่อเตรียมพร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ลองมาดูว่ามีรูปแบบการชำระเงินแบบไร้เงินสดอะไรบ้าง
Mobile Banking & Internet Banking
Mobile Banking และ Internet Banking กลายเป็นช่องทางหลักที่ลูกค้าใช้ในการโอนเงินและชำระค่าสินค้าในปัจจุบัน ด้วยความสะดวกที่สามารถทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ตโฟน ลูกค้าสามารถจ่ายค่าอาหารผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีร้านได้โดยตรง เราจึงเห็นแนวโน้มการใช้งาน Mobile Banking เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในธุรกิจร้านอาหาร
QR Code Payment
การสแกนจ่ายผ่าน QR Code นับเป็นนวัตกรรมการชำระเงินที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว และไม่จำเป็นต้องพกเงินสดหรือบัตร เพียงลูกค้าใช้สมาร์ตโฟนสแกน QR Code ที่ร้านอาหารเตรียมไว้ ก็สามารถชำระเงินได้ทันที ที่สำคัญคือเทคโนโลยีนี้มีต้นทุนต่ำสำหรับร้านอาหาร ไม่จำเป็นต้องลงทุนในอุปกรณ์ราคาแพง เพียงพิมพ์ QR Code หรือแสดงผ่านหน้าจอก็เพียงพอแล้ว ทำให้ร้านอาหารทุกขนาดสามารถเข้าถึงได้
E-Wallets
กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Wallets กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีแอปพลิเคชันอย่าง TrueMoney, Rabbit Line Pay หรือ ShopeePay ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากมักมาพร้อมโปรโมชันและส่วนลดพิเศษที่ดึงดูดลูกค้า นอกจากนี้ E-Wallets ยังมีความปลอดภัยสูง ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารโดยตรง ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าที่คำนึงถึงความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์
บัตรเครดิตและบัตรเดบิต

แม้ว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะเข้ามามากมาย แต่บัตรเครดิตและบัตรเดบิตยังคงได้รับความนิยม โดยเฉพาะในรูปแบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless Payment) ที่เพียงแค่แตะบัตรกับเครื่องรับชำระเงินก็สามารถทำรายการได้ทันที บัตรเหล่านี้ยังมาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น แต้มสะสม ส่วนลดพิเศษสำหรับร้านอาหารพันธมิตร หรือแม้แต่แคมเปญผ่อนชำระ 0% ซึ่งช่วยดึงดูดลูกค้าให้ใช้จ่ายในร้านอาหารมากขึ้น
พฤติกรรมลูกค้าปัจจุบัน
ในปัจจุบันลูกค้ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด หลายคนเลือกที่จะไม่พกเงินสดติดตัวเลย และคาดหวังว่าร้านอาหารจะรองรับการชำระเงินแบบดิจิทัล ความสะดวกสบายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกร้าน เพราะลูกค้าต้องการประสบการณ์ที่ราบรื่นตั้งแต่การสั่งอาหารไปจนถึงการชำระเงิน นอกจากนี้ ลูกค้ายุคใหม่ยังนิยมติดตามรายจ่ายของตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งการใช้จ่ายแบบดิจิทัลช่วยให้บันทึกค่าใช้จ่ายได้โดยอัตโนมัติและจัดการงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งผลกับร้านอาหารอย่างไร
Cashless Society ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจร้านอาหารในหลายด้าน นอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่นิยมพกเงินสดแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงในการบริหารเงินสดและป้องกันการทุจริตภายในร้าน การจัดการบัญชีของร้านก็ทำได้ง่ายขึ้นเนื่องจากทุกธุรกรรมถูกบันทึกในระบบโดยอัตโนมัติ ทำให้การตรวจสอบยอดขายและการคำนวณภาษีมีความแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ ลดเวลาในการทอนเงิน ทำให้รองรับลูกค้าได้มากขึ้นในช่วงเวลาเร่งด่วน
ร้านอาหารต้องเตรียมตัวอย่างไร
การปรับตัวให้เข้ากับ Cashless Society เป็นสิ่งสำคัญที่ร้านอาหารต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อความอยู่รอดและการเติบโตในยุคดิจิทัล เราต้องศึกษาและเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับขนาดและลักษณะของร้าน พร้อมทั้งฝึกอบรมพนักงานให้มีความเข้าใจและสามารถใช้งานระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่ามีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
เพิ่มช่องทางการรับชำระเงินดิจิทัล
ร้านอาหารควรเปิดรับทั้ง Mobile Banking, สแกนจ่ายผ่าน QR Code, บัตรเครดิต/เดบิต และ E-Wallets ยิ่งรองรับได้หลายช่องทาง ยิ่งเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าที่มีความหลากหลาย ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องเริ่มทุกช่องทางพร้อมกัน อาจเริ่มจากช่องทางที่ได้รับความนิยมและมีต้นทุนต่ำก่อน เช่น QR Payment แล้วค่อย ๆ ขยายไปสู่ช่องทางอื่นตามความเหมาะสม
ใช้ระบบ POS เชื่อมกับระบบรับชำระเงิน
ระบบ POS จะช่วยเชื่อมโยงการรับออเดอร์เข้ากับระบบการชำระเงินแบบดิจิทัล ทำให้การบริหารจัดการร้านมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบ POS ที่ดีควรสามารถรองรับการชำระเงินได้หลากหลายรูปแบบ มีการบันทึกข้อมูลการขายแบบเรียลไทม์ และสามารถออกรายงานเพื่อวิเคราะห์ผลการดำเนินงานได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความผิดพลาดในการคิดเงิน ทำให้การจัดการบัญชีและภาษีของร้านเป็นไปอย่างถูกต้องและโปร่งใส
แจ้งลูกค้าชัดเจนว่าร้านรองรับช่องทางไหนบ้าง
ร้านอาหารควรแสดงสัญลักษณ์หรือโลโก้ของช่องทางการชำระเงินที่รองรับไว้ในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจน เช่น ที่หน้าร้าน โต๊ะอาหาร หรือใกล้กับเคาน์เตอร์เก็บเงิน นอกจากนี้ ควรฝึกอบรมพนักงานให้สามารถแนะนำวิธีการชำระเงินแต่ละรูปแบบให้กับลูกค้าได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจและเกิดประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการ

Cashless Society ไม่ใช่เพียงเทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่กำลังเกิดขึ้นอย่างถาวร ร้านอาหารที่ปรับตัวได้เร็วจะได้เปรียบในการแข่งขันและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ได้ดีกว่า เราสามารถเริ่มปรับตัวตั้งแต่วันนี้ได้ด้วยระบบ POS จาก Super POS ที่รองรับการชำระเงินแบบดิจิทัลครบวงจร พร้อมฟังก์ชันการจัดการร้านอาหารที่ครอบคลุมทุกความต้องการ